"คลัง" แตะเบรกดึงบริษัทประกันเอกชนคุมค่ารักษาพยาบาล

    

  "คลัง" แตะเบรกดึงบริษัทประกันเอกชนคุมค่ารักษาพยาบาล ขรก. หลังหลายฝ่ายยังค้านหนัก พร้อมหาทางคุมงบ ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณาคลอดมาตรการภาษีกระตุ้นลงทุนเอกชนรอบ 2 ในสัปดาห์นี้
       
       นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ชะลอเรื่องการจ้างบริษัทประกันเอกชนเข้ามาบริหารจัดการค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการทั้งระบบออกไปก่อน เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งข้าราชการและบุคลากรทางการแพทย์ไม่เห็นด้วย
       
       ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะศึกษาข้อเสนอแนะของฝ่ายต่างๆ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพื่อดูข้อดี-ข้อเสียของระบบการเบิกค่ารักษาพยาบาลข้าราชการในปัจจุบัน และการว่าจ้างให้บริษัทประกันเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ ว่าอย่างไหนจะทำให้มีประสิทธิภาพ และดูแลภาระงบประมาณของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ดีกว่ากัน
       
       “ขณะนี้การดูแลควบคุมค่ารักษาพยาบาลข้าราชการก็ต้องใช้วิธีปกติไปก่อน ซึ่งทางกรมบัญชีกลางได้มีการออกมาตรการดูแลต่อเนื่อง ซึ่งช่วยทำให้ประหยัดงบประมาณภาครัฐได้ระดับหนึ่ง”
       
    โดยที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้ออกมาตรการควบคุมการเบิกจ่ายค่ายาทั้งในบัญชียาหลักและยานอกบัญชียาหลักให้ชัดเจนมากขึ้น ไม่ให้เกิดการรั่วไหลและเป็นการประหยัดเงินงบประมาณค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท และปีงบประมาณ 2559 อยู่ที่ 7.1 หมื่นล้านบาท
       
       ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้กำหนดว่า กรณีที่แพทย์สั่งยาในบัญชีหลักในการรักษาพยาบาลข้าราชการ จำนวนมากๆ ติดกันเป็นเวลาหลายเดือน การจ่ายยาโรคเฉพาะทางที่แพทย์ผู้รักษาไม่ได้มีความเชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะต้องเขียนเหตุผลไว้ในทะเบียนประวัติของคนไข้เพื่อใช้ตรวจสอบในภายหลัง
       
       นอกจากนี้ สถานพยาบาลจะต้องวางกลไกการกำกับการจ่ายยาของแพทย์ดังกล่าว หากกรมบัญชีกลางตรวจพบว่าสถานพยาบาลไม่ดำเนินการกำกับดูแล กรมบัญชีกลางจะทำการเรียกเงินค่ายาที่มีการเบิกจ่ายทั้งหมดคืน
       
       โดยในสัปดาห์นี้จะหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อเร่งสรุปมาตรการลดหย่อนภาษี 2 เท่า เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนก่อนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนนี้ โดยกระทรวงการคลังต้องการออกมาตรการนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้เอกชนมีเวลาเตรียมตัวลงทุนเพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด
       
       ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเสนอเงื่อนไขของมาตรการเพิ่มเติมว่า เอกชนต้องลงทุนและใช้จ่ายจริงในปีนี้มากกว่าการลงทุนในปีที่ผ่านมา จึงจะสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการลงทุนดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า นอกจากนี้ สศค.ยังคิดเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมอีก เพื่อทำให้แน่ใจว่าเอกชนจะเร่งลงทุนในปีนี้ให้มากที่สุด
       
       "กระทรวงการคลังคิดว่าเอกชนมั่นใจแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่องของไทย และต้องการลงทุนเพิ่ม จึงขอให้กระทรวงการคลังขยายเวลามาตรการลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ซึ่งสิ้นสุดเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าการลงทุนของเอกชนปีนี้จะมากกว่า 2 แสนล้านบาท เพราะเอกชนไม่มีการลงทุนมานาน ที่ผ่านมาใช้กำลังการผลิตเต็มขีดความสามารถแล้ว ต้องมีการลงทุนเพิ่ม ไม่เช่นนั้นก็จะแข่งขันกับคนอื่นไม่ทัน" นายสมชัย กล่าวสรุป 

ขอบคุณข้อมูลจาก MGR Online
 

PENTOR EXCHANGE CO., LTD

ร้าน เป็นต่อเอ็กซ์เช้นจ์ สาขา เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 (หลังธนาคารกสิกรไทย)
เวลาทำการ: จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 11.30 น. ถึง 19.00 น.
โทร: 091-096-4444, 091-097-4444
E-mail: pentorexchange@gmail.com

Line : @pentorexchange

ร้าน เป็นต่อเอ็กซ์เช้นจ์ สาขา คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC)

ศูนย์การค้าคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนเลียบทางด่วน เอกมัย – รามอินทรา (หน้าธนาคารกสิกรไทย)
เวลาทำการ เวลาทำการ: จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 11.30 น. ถึง 19.00 น.
โทร: 091-091-7444
E-mail: pentorexchange2@gmail.com

อัตราแลกเปลี่ยนเงิน

สกุลเงินซื้อขาย
USD
United States
36.52 36.70
GBP
United Kingdom
45.79 46.05
EUR
European Union
39.19 39.45
JPY
Japan
0.239 0.2405
MYR
Malaysia
7.66 7.73
SGD
Singapore
26.80 27.20
CNY
China
5.03 5.09

ราคาทองคำ

ราคาทองคำ

ทองคำแท่ง
รับซื้อ (บาท)
39,950.00
ขายออก (บาท)
40,050.00
ทองคำรูปพรรณ
รับซื้อ (บาท)
39,234.08
ขายออก (บาท)
40,550.00