#ปุกไปไหน #JapanDay3 #รีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่น

#ปุกไปไหน #JapanDay3

       วันนี้เราออกจากรร 09:30 ค่ะมุ่งหน้าไปสู่เมือง Iwakuni โดยใช้เวลาขับรถประมาณ40นาทีจากเมืองHiroshima เป้าหมายของเราคือสะพาน Kintai Bridge ค่ะโดยสะพานนี้เป็นสะพานไม้ที่มีอายุเก่าแก่ถึง400ปีในสมัยก่อนสร้างโดยไม่มีการใช้ตะปูเลยนะคะแต่เนื่องจากสะพานนี้มีอายุที่เก่าแก่จึงผ่านการบูรณะมาหลายครั้งในยุคต่อมาจึงมีการใช้ตะปูเข้ามาช่วยค่ะเค้าว่าสะพานนี้สวยติด1ใน3ของประเทศญี่ปุ่นเชียวน๊าาา

((วันนี้ท้องฟ้าสวยเหมาะแก่การถ่ายรูปจริงๆ))

((ใกล้กันกับสะพานก็มีขนมท้องถิ่นขาย))

       สำหรับใครที่อยากเดินข้ามสะพานก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางนะจ๊ะคนละ300Yค่ะแต่เดี๋ยวก่อน!!! ถ้าคุณซื้อในราคา 970Y คุณจะได้ตั๋ว Rop way ไปกลับปราสาท Iwakuni ด้วยนะแถมยังมีตั๋วเข้าชมปราสาทอีกซื้อ970Y ครบจบในที่เดียวแต่จะเท่าไหร่ก็เอาเถอะเราไม่หวั่นเพราะเราแลกเงินมาในอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่คุ้มเว่อร์เท่าไหร่ก็จัดไปหลังจากซื้อตั๋วเสร็จเราก็ยังลีลาไม่เดินขึ้นสะพานขอแวะกินข้าวสักหน่อยหิวแล้วจ้าร้านอาหารก็อยู่ตรงข้ามกับสะพานเลยค่ะพนง.พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยใครมาอย่าลืมแวะชิม

((เมนูนี้เค้าว่าเป็นซูชิซิกเนเจอร์ของที่นี้แหละ ))

       หลังจากอิ่มแล้วเราก็ไปขึ้น Rop wayกันค่าโดยRop wayนี้จะพาเราขึ้นเขาไปสู่ปราสาท Iwakuni ที่อยู่บนเขา Rop wayนี่จะมาทุกๆ15นาทีค่ะคันนึงน่าจะขึ้นได้ประมาณ20กว่าคนแน่นๆไปเลยตอนอยู่ในRop wayนี่พยายามทำตัวให้เล็กที่สุดนะแต่แค่แปปเดียวใช้เวลาขึ้นเขาไม่นานค่ะไม่น่าเกิน10นาทีชิวๆ

((ขึ้นรถแดงๆ))

       เมื่อRop wayพาเรามาสู่จุดหมายแล้วก็อย่าดีใจไปว่าถึงปราสาทแล้วนะคะเราต้องเดินไปอีกประมาณ15นาทีเบาๆชิวๆอากาศเย็นๆก็ถึงปราสาทสำหรับเราที่ซื้อตั๋วแบบ970Y ก็มีตั๋วเข้าชมปราสาทให้มาด้วยค่ะภายในปราสาทจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงดาบโบราณต่างๆและรูปถ่ายปราสาทและบริเวณใกล้เคียงในอดีตค่ะ

((เป็นปราสาทเล็กๆค่ะเดินแปปเดียวก็หมดแล้ว))

((วิวจากชั้นบนสุดของปราสาท))

       หลังจากเราลงจากปราสาทแล้วเราก็จะยังสถานที่ต่อไปนั้นคือไปขึ้นเรือเฟอรี่เพื่อข้ามไปยังเกาะ Miyajima ค่ะค่าขึ้นเรือเฟอรี่ 360Y ใช้เวลานั่งประมาณไม่เกิน 10นาทีเรือก็จะพาเรามาถึงฝั่งไฮไลท์ของเราวันนี้คือเราจะไป Itsukushima Shrine โดยศาลเจ้านี่โด่งดังจากการที่มีประตูโทริอิหรือเสาส้มๆที่เราเห็นกันตามศาลเจ้าญี่ปุ่นลอยอยู่กลางน้ำค่ะแต่สำหรับที่นี้ไม่ใช่ทุกคนที่มาแล้วจะเห็นเสาลอยน้ำนะคะบางครั้งก็ต้องลุ้นกันว่าน้ำจะขึ้นรึเปล่าถ้าช่วงเวลาน้ำขึ้นก็จะได้รูปภาพที่สวยงามหรือถ้าใครมาแล้วน้ำแห้งก็จะได้ฟิลอีกแบบนึงค่ะ

((รูปภาพจากGoogle ทำให้เราต้องดั้งด้นมาที่นี้หลายๆคนน่าจะเคยเห็นรูปนี้กัน))

       เมื่อเรามาถึงเกาะก็มีความดีใจเบาๆเพราะน้ำขึ้นและท้องฟ้าแจ่มใสเมฆสวยวันนี้เราจะได้รูปสวยไปเช็คอินอวดประชาชนในเฟสบุคแน่นอนระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าเราก็แวะชิมหอยนางรมสักหน่อยเพราะที่เกาะนี้ของขึ้นชื่อคือหอยนางรมค่ะใครมาเกาะนี้แล้วไม่กินนะพลาดมากจ้ามีสารพัดเมนูจากหอยนางรมให้เลือกกินกันเลย

((มีหลายซอสให้เลือกว่าจะราดอะไร))

((อันนี้ถูกใจคุณปุกมากเป็นข้าวปั้นปิ้งแล้วโป๊ะด้วยหอย))

       นอกจากระหว่างทางเดินไปจะมีแต่ของกินแล้วนั้นยังมีกวางน้อยเดินกันไปทั่วเกาะแต่กวางที่นี้ค่อนข้างเรียบร้อยนะไม่เกรียนเหมือนกวางที่เมือง Nara

((ไงมนุษย์มีไรให้เลากินบ้าง))

((ใครจะเข้าร้านก็จ่ายค่าผ่านทางมาก่อน))

       แล้วเราก็เดินมาถึงศาลเจ้าจนได้แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือ......ประตูโทริอิปิดซ่อม!! What the fuxxxxxxxxxxxxxxx ให้ตายเถอะะะะะะะะแล้วชั้นมาทำอะไรที่นี้ปั๊ดโถ่วเอ๊ยยยยเฟลขั้นสุดทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ดั่งนรกชั่งสวรรค์แกล้งเราเห็นเจ้าหน้าที่เดินผ่านไปเลยได้เข้าไปสอบถามว่าจะใช้เวลาซ่อมอีกนานเท่าไหร่กี่วันกี่อาทิตย์กี่เดือนหรือยังไงเจ้าหน้าที่ให้คำตอบมาว่า “More than 2 years...” โอ้แม่เจ้าซ่อมนานมากอ่ะฝันชั้นพังทลายหมดวันนี้ตั้งใจว่าจะมีรูปเสาส้มลอยกลางน้ำโพสลงเฟคบุคเก๋ๆจบสิ้นกันแล้ว

((เสียไตจริงๆค่ะท่านผู้ชมทำไมต้องมาซ่อมอะไรป่านนี้โลกไม่ยุติธรรม))

       เศร้าค่ะ...ขอนั่งทำใจบนเกาะสักพักแล้วเราไปต่อกันที่ Hiroshima Peace Memorial Museum วันนี้โปรแกรมเราจะอัดแน่นหน่อยชดเชยเมื่อวานที่เป็นฟรีเดย์ค่ะโดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมเกี่ยวกับฮิโรชิม่าที่โดนระเบิดปรมาณูค่ะภายในจัดแสดงเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่เหลืออยู่จากการโดนระเบิดค่อนข้างหดหู่และเศร้าใจกับสิ่งที่มนุษย์ทำกันเองขนาดนี้ที่นี้มี Audio Guide ให้ยืมด้วยนะคะบางคนบอกว่ามีภาษาไทยให้ด้วยคือในอดีตอาจจะเคยมีก็เป็นไปได้นะคะแต่ปัจจุบันนี้ไม่มีภาษาไทยนะคะที่นี้ถือเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนควรแวะมาเมื่อมาเที่ยวที่เมืองนี้ค่ะ

((ค่าเข้าชม200Yค่ะเปิด08:30-18:00ของทุกวัน))

((จักรยานที่คุณพ่อของเด็กในรูปภาพได้ฝั่งเอาไว้นานหลายสิบปีก่อนจะขุดมามอบให้พิพิธภัณฑ์))

((ซากเสื้อผ้าที่เหลืออยู่))

       ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ก็จะเป็นสวน Peace Memorial Park สวนนี้สามารถเดินทะลุไปที่อาคาร Atomic Bomb Dome ซึ่งถือเป็นมรดกโลก UNESCO เป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของระเบิดทำให้ทุกคนในอาคารเสียชีวิตทันทีเนื่องจากไฟลุกไหม้ทั่วทั้งอาคารแต่ตัวอาคารรอดพ้นจากการถ

((เป็นอาคารเดียวที่เหลืออยู่))

       เราเดินชมบริเวณรอบๆได้ไม่นานก็เดินทางกลับรรเนื่องจากฟ้ามืดและอาการค่อนข้างหนาวจึงกลับไปหาอาหารเย็นทานแถวๆรรค่ะสำหรับวันนี้เป็นวันที่ยาวนานเที่ยวทั้งวันเลยทั้งเหนื่อยล้าและผิดหวังมาจบวันด้วยการรับชมสิ่งที่ทำให้หดหู่ใจอีกวันนี้คุณปุกจึงขอลาไปดื้อๆก่อนแล้วพรุ่งนี้มาต่อกันกับ #ปุกไปไหน #ติดตามอีพี4ได้ที่นี่